เงินกู้นอกระบบ

อันตราย!! อย่าหาทำ 

         ทางเลือกหนึ่งที่ทำให้สามารถหาเงินมาใช้หมุนเวียนธุรกิจหรือชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ประสบปัญหาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ผลกระทบที่เกิดจากสภาวะของเศรษฐกิจ เป็นต้น แม้กระทั้งการหลงระเริงกับการใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกินความจำเป็น  ด้วยเหตุเหล่านี้ เมื่อต้องการหาแหล่งรายได้เพิ่ม หากเงินไม่พอใช้  จึงนำมาสู่คำพูดที่มักจะได้ยินกันเสมอ ๆ  นั่นก็คือ“การขอเงินกู้นอกระบบ”

 

          สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลาย ๆ คนเลือกกู้เงินที่ไม่ใช่การกู้เงินผ่านสถาบันการเงินหรือการกู้เงินในระบบ นั่นก็เพราะความเชื่อและความเข้าใจผิดที่มีต่อคำว่า "เงินกู้นอกระบบ"  ในอีกรูปแบบหนึ่ง คือ ความสะดวกรวดเร็วในการขอเงินกู้ สามารถขอเงินกู้มาใช้ก่อนได้ง่าย ๆ ได้วงเงินกู้สูง แถมไม่ต้องยื่นเอกสารที่ยุ่งยากหรือไม่ต้องตรวจสอบประวัติทางการเงิน แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วนั้น มีอันตรายอย่างไร ทำไมจึงควรหลีกเลี่ยง เรามาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันนะคะ

1. การขอเงินกู้นอกระบบคืออะไร ?

          การขอเงินกู้นอกระบบคือ บุคคลสองคนที่ตกลงทำสัญญาร่วมกันในการขอยืมเงินหรือใช้ทรัพย์สินใด ๆ ก็ตามเป็นหลักในการค้ำประกันในการขอเงินกู้ โดยไม่ผ่านการกำกับดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่นำมาสู่ การเกิดดอกเบี้ยลอย การคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าปกติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือตามที่กฎหมายเป็นผู้กำหนดไว้ ค่าธรรมเนียมที่เจ้าหนี้จะคิดเท่าไหร่ก็ได้ รวมถึงสัญญาเงินกู้ที่ถูกบิดเบือนข้อมูลการขอกู้ได้อย่างง่ายดายที่เจ้าหนี้มักจะเอาเปรียบหรือเกิดการโกงลูกหนี้ได้อย่างสบาย ๆ ไม่มีแม้กระทั้งการประนอมหนี้ จะต้องโดนเจ้าหนี้ติดตามทวงถามหนี้ที่โหดร้ายและทารุณที่ยากจะแก้ไขได้

2. ประเภทของการขอเงินกู้นอกระบบ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

          2.1 เงินกู้แบบระยะสั้น คือ การขอเงินกู้แบบรายวันที่เป็นการกู้เงินสด ทอง หรือใช้ทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ในการขอกู้ที่จะคิดดอกเบี้ยแบบรายวัน บวกทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละวัน หรือ การขอเงินกู้ที่ทำให้เกิด ดอกลอย นั่นก็คือ การคิดดอกเบี้ยในทุก ๆ วัน เพื่อให้ลูกหนี้ชำระดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ จนกว่าลูกหนี้จะนำเงินต้นทั้งหมดมาคืน 

          2.2 เงินกู้แบบระยะยาว คือ การขอเงินกู้แบบรายเดือนหรือรายปี ที่มีสัญญากับเจ้าหนี้ มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป โดยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยในทุก ๆ เดือน จนว่าจะนำเงินก้อนมาคืนทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน หากมีการขอเงินกู้ที่สูงเกินไป เจ้าหนี้จะขอสินทรัพย์ในการค้ำประกัน เช่น โฉนดที่ดิน รถยนต์ เป็นต้น

          จริง ๆ แล้ว หลาย ๆ คน อาจจะรู้อยู่แล้วว่า การขอเงินกู้นอกระบบนั้นเป็นอย่างไร ถึงแม้จะเป็นการขอกู้เงินที่แสนจะง่ายดาย แต่กลับมีภัยร้ายคุมคามตามมาอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้ชำระหนี้ตรงตามกำหนด แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนอีกไม่น้อยที่เขาไม่สามารถเลือกได้ด้วยเหตุผลจำเป็นบางประการ จะต้องยอมกู้เพื่อเป็นค่าเทอมลูก ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ และเหตุผลอีกมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากปฏิบัติดังนี้ คุณก็จะสามารถปลดหนี้ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน นั่นก็คือ

1. มองหาช่องทางอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม

           หากคุณพยายามที่จะเก็บเงินออมมากมายเพื่อที่จะนำไปชำระหนี้นอกระบบ แต่รายรับกลับไม่มากพอเท่ากับรายจ่าย จนทำให้คุณไม่สามารถชำระหนี้จากเงินกู้นอกระบบได้ อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณมีเงินเพิ่มให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ คุณจะต้องมองหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับคุณ เพื่อที่คุณจะได้มีเงินออมมากพอที่จะเก็บสะสมเป็นเงินก้อนไปใช้ในชำระหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณหลุดพ้นจากการเป็นหนี้นอกระบบได้

2. การลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง

          เรื่องง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ หากประสบปัญหาการกู้เงินนอกระบบ คุณจะต้องลดภาระค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองหรือไม่จำเป็นออกไปให้หมด เช่น กระเป๋าแบรนด์เนมหรู ๆ, มื้ออาหารในร้านอาหารชั้นนำ เป็นต้น เปรียบเสมือนการที่คุณอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เพราะหากคุณลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ จะนำมาซึ่งเงินเก็บที่มากพอในการนำมาชำระหนี้นอกระบบของคุณ เพียงเท่านี้ หนี้นอกระบบของคุณก็จะหมดไป แถมเงินเก็บคุณอาจจะมีมากขึ้น ทำให้คุณมีเงินเพียงพอที่จะไปใช้จ่ายในสิ่งที่คุณต้องการ หรือลองอ่านบทความ เทคนิคบริหารเงิน ไม่ต้องเป็นภาระใคร เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันทางการเงินเพิ่มเติมก็ได้จ้า

3. จำหน่ายทรัพย์สินมีค่าที่มี

          ในบางครั้ง คุณอาจจะต้องตัดใจกับทรัพย์สินบางส่วนที่คุณมีเพื่อนำไปจำหน่ายให้เกิดรายได้หรือเงินเพิ่มที่คุณจะสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปโป๊ะหรือปิดหนี้เงินกู้นอกระบบที่คุณมีได้

4. เจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้

          หากคุณประสบปัญหารับภาระในการชำระหนี้นอกระบบไม่ไหว อย่าฝืนคิดที่จะเสี่ยงผิดนัดการชำระหนี้ หรือ เลือกที่จะไม่ชำระหนี้ เพราะอาจจะส่งผลเสียที่เกิดขึ้นกับตัวของคุณได้ ดังนั้น เมื่อคุณรู้ตัวดีว่าไม่สามารถที่จะรับภาระในการชำระเงินกู้นอกระบบได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือ การเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ในการผ่อนผันการชำระหนี้ การขอลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นบานปลาย และแสดงเจตจำนงให้เจ้าหนี้เห็นว่าคุณจะไม่ผิดนัดในการชำระหนี้และจะชำระหนี้ตรงตามที่ตกลงกันไว้ เพื่อให้เจ้าหนี้ตัดสินใจประนอมหนี้ให้กับคุณได้บ้าง

5. การขอคำปรึกษากับทางธนาคารหรือการขอเงินกู้ในระบบ

          ทางเลือกสุดท้ายที่คุณไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือ การขอสินเชื่อกับทางธนาคารเพราะในปัจจุบันธนาคารส่วนใหญ่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีหนี้จากการกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายหรือนโยบายการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบด้วยการรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อที่ไม่มีหลักค้ำประกัน หรือการขอสินเชื่อที่มีหลักในการค้ำประกัน 

           อย่างไรก็ตามการปรึกษากับทางธนาคารที่เป็นการขอเงินกู้ในระบบนั้น ย่อมมีข้อดีมากกว่าการขอเงินกู้นอกระบบเพราะลูกหนี้จะสามารถตรวจสอบสัญญาการขอเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระที่ชัดเจน ไม่บิดเบือน  แม้กระทั้งการคิดคำนวณดอกเบี้ยรายเดือนหรือรายปี ลูกหนี้ก็สามารถตรวจสอบความถูกต้องและความโปร่งใสได้ หากไม่สามารถรับภาระในการชำระหนี้ก็สามารถเจรจาต่อรองในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของตนเองได้

          หลังจากที่เราได้ศึกษาเกี่ยวกับอันตรายและความเสี่ยงที่จะตามมา หากคุณเลือกที่จะขอเงินกู้นอกระบบแล้วนั้น เราอยากให้คุณฉุกคิดก่อนสักนิด เพื่อตัดสินใจว่าคุณมีเหตุผลรองรับเพียงพอที่จำเป็นต้องขอเงินกู้นอกระบบจริง ๆ หรือไม่  และทางที่ดี เพียงแค่คุณใช้จ่ายอย่างประหยัด เก็บหอมรอมริบเป็นอย่างดี คุณก็จะมีเงินใช้ยามจำเป็น  ไม่เกิดการก่อหนี้  

          แต่ถ้าหากคุณกำลังประสบปัญหาที่หาทางออกทางการเงินไม่ได้หรือมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน สามารถปรึกษากับเราทิสโก้ออโต้แคชได้นะคะ Line: TISCOAutoCash ทางเรามีสินเชื่อหลากหลายรูปแบบไว้คอยให้บริการคุณ อุ่นใจหายห่วงด้วยมิตรภาพดี ๆ จากเราชาวออโต้แคช

หมายเหตุ: ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และผู้ค้ำประกัน โดยพิจารณาจากยี่ห้อ รุ่น ปีที่จดทะเบียนของรถ รวมถึงรายได้และสถานภาพต่าง ๆ ของผู้สมัคร ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร