12 วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ขับยังไง
 

เมื่อไหร่ที่เริ่มจับพวงมาลัยรถแล้วเหยียบคันเร่งพร้อมออกเดินทางให้คิดเสมอว่าจะต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ห้ามประมาทเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น จะสร้างความเสียหายให้กับรถ ตัวคุณ หรือร้ายแรงกว่านั้น คือส่งผลเสียต่อบุคคลอื่น ๆ ด้วย สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลือกใช้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง นั่นก็คือ การวางตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ ขณะขับขี่รถอยู่บนท้องถนน เพียงเท่านี้ จะเป็นส่วนช่วยให้คุณขับรถบนถนนได้อย่างปลอดภัยและการเลือกใช้เกียร์ออโต้ที่ถูกต้องเป็นการช่วยถนอมสภาพรถยนต์ให้คุณสามารถขับรถคันโปรดไปได้อีกนาน

ทิสโก้ออโต้แคช เราขอยกตัวอย่างสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนเพื่อบอกเทคนิครถเกียร์ออโต้ขับยังไง ถึงจะปลอดภัยและช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณเลือกใช้เกียร์ผิดตำแหน่ง

12 วิธีขับรถเกียร์ออโต้ โฟกัสแค่ไม่กี่จุดก็ขับสบายเสมือนเซียนสนามแข่ง 

1. การใช้เกียร์ D3 D2 D1 ต่างกันอย่างไร ?  

เมื่อไหร่ที่ขับรถบนท้องถนนที่ลาดชัน จะต้องคำนึงถึงรถเกียร์ออโต้ ขับยังไงเพื่อให้ปลอดภัยในการขับขี่ การใช้เกียร์ D3 D2 D1 ถือเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เนื่องจากเกียร์ในตำแหน่งดังกล่าวจะช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ตามปกติ ขณะขับขี่อยู่บนถนนลาดชัน วิธีการใช้เกียร์ D3 D2 D1 ดังนี้ 

  • เกียร์ D3 ใช้กับถนนหนทางที่มีความลาดชันน้อย เช่น การขึ้นสะพาน เป็นต้น
  • เกียร์ D2 ใช้กับถนนที่มีความลาดชันในพื้นที่ไม่สูงมาก นิยมใช้เกียร์ D2 ในกรณีที่ต้องการขับรถขึ้นลานจอดรถบนห้างสรรพสินค้า
  • เกียร์ D1 หรือที่เรียกว่า เกียร์ต่ำ (เกียร์ L) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ขับรถขึ้นภูเขาหรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงนั่นเอง รวมไปถึงตอนลงภูเขาด้วยนะ เพราะเกียร์ D1 จะเป็นตัวช่วยให้เครื่องยนต์ถูกเบรกเอาไว้ ทำให้การไหลของรถช้าขึ้น ช่วยลดการเหยียบเบรกและมีผลพลอยได้ที่ทำให้ไม่ต้องใช้ผ้าเบรกสิ้นเปลืองนะคะ

2. เข้าเกียร์แบบไหน เดินหน้าแซงรถคันอื่นได้ไวแน่นอน ? 

ในกรณีที่ขับรถมาด้วยเกียร์ D4 เป็นระยะเวลานาน เมื่อต้องการเร่งความเร็วเครื่องยนต์ จะต้องใช้เกียร์ D3 เพื่อที่จะทำให้รถวิ่งได้เร็วแซงค้นหน้าสบาย ๆ แต่การแซงรถคันหน้านั้น ควรจะต้องมีความระมัดระวังมากกว่าปกติ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกับรถคันอื่น ๆ ที่ขับอยู่บนท้องถนนนะคะ ต้องมั่นใจว่า การแซงนั้น ปลอดภัยแล้ว ถึงจะสามารถแซงได้ค่ะ 

3. การเบิ้ลเครื่องหรือเร่งความเร็วก่อนเข้าเกียร์ออโต้ทำได้หรือไม่ ?

สำหรับผู้ที่มีใจรัก นักเบิ้ลเครื่องออกตัวไว รถพุ่งไปอย่างรวดเร็วทันใจ โดยการเร่งเครื่องยนต์ก่อนแล้วจึงค่อยเข้าเกียร์ D หรือเกียร์เดินหน้า ต่อให้วิธีนี้จะช่วยทำให้รถออกตัวได้แรงขึ้น แต่กลับสร้างความเสียหายกับชุดเกียร์และเพลาขับ รวมไปถึงยางรถยนต์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น หากมีสิ่งกีดขวางทางข้างหน้ากะทันหัน จะทำให้เบรกไม่ทัน เสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้

4. รถเกียร์ออโต้ ขับยังไง เมื่อติดไฟแดง ? 

ขณะจอดรถติดไฟแดง เข้าเกียร์ N ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยให้รถหยุดนิ่ง ซึ่งการเข้าเกียร์ N หากถนนมีเนินเล็กน้อย หรือพื้นถนนต่างระดับกัน จะทำให้รถไหลได้ค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่ารถนิ่งสนิทแล้ว จะไม่ไหลไปชนคันอื่น ๆ จะต้องกดเบรกเอาไว้ด้วยนะคะ ขณะที่เข้าเกียร์ N แล้วค่อย ๆ ถอนเท้าออกจากเบรกเพื่อสังเกตว่ารถจอดสนิทแล้วหรือยัง หากรถจอดสนิทแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกดเบรกตลอดเวลาที่ติดไฟแดง จะได้ไม่เมื่อยเท้าที่กดเบรก หากติดไฟแดงนาน ๆ 

5. เมื่อไหร่จะถึงเวลาใช้เกียร์ P ? 

ถึงแม้ว่าเกียร์ P จะใช้สำหรับจอดรถให้นิ่งสนิทเหมือนกับเกียร์ N แต่มีความแตกต่างกัน เมื่อไหร่เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P จะเป็นการจอดรถที่ไม่สามารถขยับหรือเลื่อนรถไปในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ เพราะเกียร์ P จะมีความคล้ายคลึงกับการใช้เบรกมือ เกียร์ P จะมีกลไกใช้ล็อคระบบกระปุกเกียร์ไม่ให้เคลื่อนที่ เกียร์ P จึงเหมาะสมกับการจอดรถในโรงจอดรถ หรือ การจอดรถบนถนนลาดชัน อย่างไรก็ตาม การจอดรถบนถนนลาดชัน หากมีความลาดชันบนถนนมาก จะต้องดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถไหลนะคะ 

6. การคิกดาวน์ ขณะขับเกียร์ออโต้ จะทำให้เกิดอะไรขึ้น ? 

การคิกดาวน์เป็นการเหยียบคันเร่งจนเกือบจะมิด เพื่อเป็นการเร่งความเร็วให้กับรถ ขณะขับขี่เมื่อได้จังหวะในการแซงรถคันอื่น หากเลือกใช้วิธีนี้ โดยไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับอัตราการเร่งเครื่องยนต์ จะทำให้เกียร์เปลี่ยนอัตราทดต่ำลงเพื่อทำให้เรียกรอบเครื่องยนต์ได้ ซึ่งก็จะช่วยให้รถพุ่งได้รวดเร็วกว่าปกติ หากกระทำการคิกดาวน์บ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อชุดเกียร์ ทำให้เกียร์เสื่อมสภาพไวกว่ากว่าเดิม 

7. ใช้เกียร์ N เพื่อให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นได้จริงหรือ ?  

ขณะที่รถกำลังแล่นอยู่บนท้องถนนแล้วต้องการชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถ กรณีที่รถกำลังจะติดไฟแดง หรือ รถคันหน้ากำลังเบรก หลาย ๆ คนจะเลือกวิธีการเปลี่ยนจากเกียร์ D เป็นเกียร์ N ทันที เพื่อต้องการให้รถไหลไปเองเรื่อย ๆ เป็นการประหยัดน้ำมัน แต่การกระทำแบบนี้กำลังจะทำให้ชิ้นส่วนที่อยู่ในระบบเกียร์ออโต้เกิดความเสียหายและถ้าเกิดความจำเป็นที่ต้องเร่งเครื่องกะทันหัน จึงต้องเปลี่ยนกลับไปที่เกียร์ D เพื่อกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานไวขึ้น สิ่งนี้จะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ชุดเกียร์ในรถของคุณเสื่อมสภาพเร็วขึ้นแน่นอน อีกทั้งไม่ได้ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากไปกว่าเดิม 

8. ถ้ารถจอดไม่นิ่งสนิทเปลี่ยนเกียร์ออโต้เดินหน้าถอยหน้าได้รึป่าว ? 

เมื่อต้องการจอดรถหรือมีเหตุให้รถต้องเคลื่อนที่เดินหน้าถอยหลัง สิ่งที่ต้องพึงระวังในการเปลี่ยนเกียร์เดินหน้าหรือเกียร์ D สลับกับเกียร์ถอยหลังหรือเกียร์ R ในทุก ๆ ครั้ง จะต้องเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถก่อนเปลี่ยนเกียร์ ช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนเกียร์สลับตำแหน่งผิดพลาดกันได้นะคะ 

9. ทำไมถึงไม่ควรใช้เกียร์ 4 หรือ D4 ? 

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อเข้าเกียร์ D4 จะทำให้รถวิ่งไปข้างหน้า ไม่ว่าสภาพถนนเรียบหรือสภาพถนนขรุขระ ก็สามารถใช้เกียร์ D4 ในการขับเคลื่อนล้อรถไปข้างหน้าได้ แต่เมื่อไหร่ที่จะต้องขับรถขึ้นบนภูเขา ขึ้นห้าง หรือพื้นที่ที่มีความลาดชัน หากฝืนใช้เกียร์ D4 เครื่องยนต์จะไม่มีกำลังแรงพอในการเร่งรอบเครื่อง งานนี้มีหวังเร่งเครื่องไม่ขึ้นแน่นอนค่ะ เผลอ ๆ จากที่กำลังขึ้นภูเขาหรือขึ้นห้าง รถจะไหลย้อนลงแทนนะคะ เป็นที่มาของอุบัติเหตุทางลาดชันที่เรามักได้ยินกันบ่อย ๆ นั่นเอง

10. จอดรถเกียร์ออโต้ไม่ดับเครื่องเสี่ยงอันตรายอย่างไร ? 

จอดรถเพื่อลงไปเปิดประตูบ้าน หรือเลือกซื้อของริมทาง ไม่ควรเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่างเอาไว้ ถึงแม้ว่าเกียร์ N จะใช้สำหรับการหยุดรถก็ตาม แต่เกียร์ N นั้น มีโอกาสที่รถจะสามารถเคลื่อนที่ไหลได้ ดังนั้นควรเลือกที่จะใช้เกียร์ P ที่เหมาะสำหรับการจอดรถนิ่งสนิท อย่างไรก็ตามกรณีนี้ สามารถทำได้เมื่อมีผู้โดยสารในรถมาด้วยนะคะ หากขับรถคนเดียว เมื่อต้องการลงไปซื้อของริมทางหรือเปิดประตูบ้าน ควรดับเครื่องยนต์อย่างยิ่ง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยขับรถของเราออกไปเลยนะคะ 

11. สตาร์ทเครื่องยนต์ รถเกียร์ออโต้ ขับยังไงให้ปลอดภัย ? 

ควรเช็คให้ดีก่อนว่าขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ การเข้าเกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ P หรือไม่ เพราะถ้าเข้าเกียร์อื่น ๆ ทิ้งเอาไว้ก่อนดับเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ D เกียร์ N หรือเกียร์ R ก็ตาม เมื่อไหร่ที่กลับมาใช้รถอีกครั้งพอเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อาจจะทำให้รถเคลื่อนที่ตามเกียร์ที่เราตั้งเอาไว้ก่อนลงจากรถ โดยที่ไม่ได้ระวังจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้น วิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ดีก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรเหยียบเบรกไว้ก่อนนะคะ จากนั้นค่อยเลือกเกียร์ในตำแหน่งที่ต้องการเพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปได้ค่ะ

12. ขับรถลากเกียร์ ส่งผลเสียอย่างไร ?

รถเกียร์ออโต้ ขับยังไง ถึงเรียกว่าเป็นการลากเกียร์ นั่นคือ การเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่สัมพันธ์กันกับการเร่งรอบเครื่องยนต์ หากอัตราความเร็วที่รถกำลังเคลื่อนที่มากขึ้น แต่เลือกใช้เกียร์ในตำแหน่งที่ผิดพลาด จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก ส่งผลเสียต่อเกียร์ที่จะสึกหรอได้เร็วขึ้น ทำให้เกิดการสูบน้ำมันเชื้อเพลิงจากเครื่องสูงกว่าปกติ และน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น 

ใคร ๆ ก็คิดว่าการขับรถเกียร์ออโต้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ต่อให้คุณเป็นมือใหม่หัดขับที่ฝึกฝนโดยใช้เวลาไม่นานก็สามารถขับรถเกียร์ออโต้ได้คล่องแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะขับรถเกียร์ออโต้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พึงระวังคือ คุณขับรถเกียร์ออโต้เป็นจริง ๆ แล้วหรือยัง ? เพราะการเลือกใช้เกียร์ออโต้นั้น จริงๆแล้ว ขับง่ายแต่ต้องมีสติให้มาก ยิ่งตอนสตาร์ทรถเกียร์ออโต้พุ่งไวกว่าเกียร์ธรรมดา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้นะคะ อย่าลืมทำประกันรถยนต์ติดรถไว้
มีทฤษฎีมากมายที่คุณสามารถเลือกปฏิบัติบนท้องถนนให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ จาก 12 วิธีในการขับรถเกียร์ออโต้ข้างต้น หากคุณสามารถตอบได้ว่าตนเองเลือกใช้เกียร์ออโต้ตรงตามหลักที่ถูกต้อง สิ่งที่แหละที่จะบ่งบอกว่าคุณขับรถเกียร์ออโต้ได้อย่างเป็นมืออาชีพ  

และเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดาก็สามารถขอสินเชื่อจำนำทะเบียนกับทิสโก้ออโต้แคชได้ทั้งนั้น ลองประเมินวงเงินกู้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ก่อนได้นะคะ ประเมินวงเงินฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ