อัปเดตกฎหมายจราจรใหม่ 2568 สรุปครบจบในที่เดียว ทั้งค่าปรับ-ตัดแต้ม
การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของการเดินทาง เพื่อลดอุบัติเหตุและสร้างวินัยบนท้องถนน การอัปเดตกฎหมายจราจรใหม่ในปี 2568 จึงมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มอัตราค่าปรับและระบบตัดแต้มที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องรู้ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังวางแผนออกรถคันแรกยิ่งต้องศึกษาให้ดี วันนี้ ทิสโก้ ออโต้แคช จะมาสรุปสาระสำคัญของกฎหมายจราจรใหม่ให้เข้าใจง่าย และครบจบในที่เดียว
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในกฎหมายจราจรใหม่ที่ผู้ใช้รถต้องรู้
กฎหมายจราจรใหม่ 2568 มุ่งเน้นการเพิ่มความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ให้มากขึ้น โดยปรับเพิ่มอัตราโทษสำหรับความผิดที่เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ พร้อมนำระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติ (ตัดแต้ม) มาใช้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างวินัยและลดความสูญเสียบนท้องถนน การเปลี่ยนแปลงนี้ครอบคลุมทุกการกระทำผิดตั้งแต่ข้อหาเล็กน้อยไปจนถึงข้อหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม
สรุปอัตราโทษและค่าปรับกฎหมายจราจรใหม่ อัปเดต 2568
หนึ่งในเรื่องสำคัญของกฎหมายจราจรใหม่ คือการปรับเพิ่มอัตราค่าปรับให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำผิดและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะข้อหาที่เป็นความเสี่ยงสูงและพบบ่อยในสังคมไทย ซึ่งมีรายละเอียดโทษปรับตามความผิดแต่ละประเภท ดังนี้
เมาแล้วขับโทษจำคุกและปรับสูงสุด 100,000 บาท หากทำผิดซ้ำ
การเมาแล้วขับเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุร้ายแรง หากทำผิดครั้งแรกมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท แต่หากกระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี โทษจะทวีคูณเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับสูงถึง 50,000-100,000 บาท พร้อมถูกพักใช้ใบขับขี่หรือเพิกถอน
ขับรถเร็วเกินกำหนดมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท
ารขับรถเร็วเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ ผู้ที่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในเขตเมืองหรือบนทางด่วน จะต้องเผชิญกับอัตราโทษตามกฎหมายจราจรใหม่นี้ มีการระบุค่าปรับสูงสุดถึง 4,000 บาท จากเดิมที่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่เหมาะสมและปลอดภัย
ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท
การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การชนอย่างรุนแรงบริเวณทางแยก กฎหมายจราจรใหม่จึงได้เพิ่มอัตราโทษสำหรับความผิดนี้ให้สูงขึ้น โดยมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท เพื่อกระตุ้นให้ผู้ขับขี่เคารพสัญญาณไฟและหยุดรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟแดงทุกครั้ง
ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท
เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้า กฎหมายจราจรใหม่ได้ปรับเปลี่ยนให้ผู้ขับขี่ที่ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายก่อน จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 4,000 บาท ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการขับขี่ที่เอื้อเฟื้อและปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางเท้าร่วมกัน
ขับรถย้อนศรมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
การขับรถย้อนศรเป็นการสร้างความสับสน และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนประสานงา กฎหมายจราจรใหม่ได้ปรับเพิ่มอัตราโทษสำหรับความผิดนี้ให้สูงขึ้น โดยมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิม 500 บาท เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ขับขี่เลือกใช้เส้นทางลัดที่ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย
ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยมีโทษปรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารสูงสุด 2,000 บาท
เข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่ช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ กฎหมายจราจรใหม่ได้กำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนต้องรัดเข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ครอบคลุมทุกที่นั่งในรถยนต์ เพื่อให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัยสูงสุด
ไม่สวมหมวกนิรภัยมีโทษปรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสูงสุด 2,000 บาท
สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมวกนิรภัยคือสิ่งป้องกันที่สำคัญที่สุด กฎหมายจราจรใหม่ได้เพิ่มโทษปรับสำหรับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย เป็นสูงสุด 2,000 บาท เพื่อรณรงค์ให้การสวมหมวกนิรภัยเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องปฏิบัติทุกครั้งที่ใช้รถ
ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถโดยไม่มีอุปกรณ์เสริมมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท
การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถทำให้ผู้ขับขี่สูญเสียสมาธิและเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบ่อยครั้ง กฎหมายจราจรใหม่จึงเพิ่มโทษปรับเป็นสูงสุด 4,000 บาท สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์โดยไม่มีอุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง หรือเปิดลำโพง เพื่อให้ผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับการควบคุมรถตลอดเวลา
ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่นมีโทษทั้งจำคุกและปรับ
พฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาทหรือน่าหวาดเสียว เช่น การปาดหน้ากระชั้นชิด การเปลี่ยนเลนกะทันหัน ถือเป็นความผิดร้ายแรงที่คุกคามผู้ใช้ถนนคนอื่น กฎหมายจราจรใหม่กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อลงโทษผู้ที่ขับขี่โดยขาดความรับผิดชอบต่อสังคม
แข่งรถในทางมีโทษทั้งจำคุกและปรับ พร้อมริบรถ
การแข่งรถในทางสาธารณะเป็นความผิดร้ายแรงที่สร้างความเดือดร้อนและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง กฎหมายจราจรใหม่มีบทลงโทษที่หนักหน่วง คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 5,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญคือศาลสามารถสั่งริบรถที่ใช้ในการแข่งขันได้ ถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาด
รู้ลึกเรื่อง "ระบบตัดแต้มใบขับขี่" ทำผิดอะไรถูกตัดกี่คะแนน
นอกจากการปรับเพิ่มค่าปรับแล้ว อีกหนึ่งกลไกสำคัญของกฎหมายจราจรใหม่ คือ “ระบบตัดแต้มใบขับขี่” โดยผู้ขับขี่ทุกคนจะมีคะแนนเริ่มต้น 12 คะแนน หากทำผิดกฎจราจรในข้อหาที่กำหนดจะถูกตัดคะแนนตามความรุนแรง และหากถูกตัดจนหมด 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่เป็นเวลา 90 วัน
ความผิดกลุ่มที่ถูกตัด 1-2 คะแนน
กลุ่มนี้เป็นความผิดที่ส่งผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก แต่เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ตัด 1 คะแนน : ขับรถเร็วเกินกำหนด, ไม่สวมหมวกนิรภัย, ไม่รัดเข็มขัด, ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ, ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย, ขับรถบนทางเท้า
- ตัด 2 คะแนน : ขับรถฝ่าไฟแดง, ขับรถย้อนศร, ขับรถระหว่างถูกพักใช้ใบขับขี่
ความผิดร้ายแรงกลุ่มที่ถูกตัด 3-4 คะแนน
กลุ่มนี้เป็นความผิดร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้อื่นโดยตรง ได้แก่
- ตัด 3 คะแนน : ขับรถชนแล้วหนี, ขับขี่ในลักษณะที่ผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา
- ตัด 4 คะแนน : เมาแล้วขับ, เสพยาเสพติดแล้วขับ, แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นอย่างร้ายแรง
สรุปบทความ อัปเดตกฎหมายจราจรใหม่ 2568
การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรใหม่นี้ ไม่เพียงช่วยให้คุณปลอดภัยและไม่เสียค่าปรับ แต่ยังแสดงถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการใช้รถใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย ซึ่งหากคุณมีปัญหาการเงินติดขัดจนเครียด แต่ไม่รู้จะหาทางออกที่ไหน ทิสโก้ ออโต้แคช มีบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ และรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาทางการเงินให้กับคุณ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-123-4000 หรือ แอดไลน์ @TISCOAutoCash เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเรื่องการเงินให้คุณทันที
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด